ฟรี แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ทุกหน่วยงาน

แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย 

1.  คำศัพท์

1.  การสะกดคำ

ข้อใดสะกดผิด  ข้อ  1-10

1. ก.  พระปรมาภิธัย   ข. พระรัตนตรัย      ค.  พระราชหฤทัย   ง.  ราชตฤณมัย
2. ก.  สบาย                ข.  สอาด                ค.  สกัด                   ง.  สบง
3. ก. ปรากฏการณ์                     ข. แถลงการณ์                       ค.  โครงการณ์                       ง.  เหตุการณ์
4. ก.  กระทัดรัด                         ข.  กระวีกระวาด                   ค.  กระวนกระวาน ง.  กระชุ่มกระชวย
5. ก.  บันดาล                            ข.  บันทัด                              ค.  บันได               ง.  บันเทิง
6. ก.  บาทหลวง                        ข.  บิณฑบาต                         ค.  ใส่บาต                             ง.  มีดบาด
7. ก. รื่นรมย์                              ข.  อารมย์                             ค.  ปี่พาทย์                            ง.  อาจารย์              
8. ก.  ทะนุบำรุง                         ข.  พะรุงพะรัง                       ค.  ขะมักเขม้น                      ง.  ละเอียดลออ
9. ก.  โค้ช                                 ข.  สมุดโน๊ต                          ค.  หมวกแก็ป                       ง.  จุกไม้ก๊อก
10. ก. หยากไย่                            ข.  ตะไคร้                             ค.  อะไหล่                             ง. ลำใย

2.  การอ่านคำ  (อ่านถูกต้อง)

11. อัปราชัย
    ก.  อะ-ปะ-รา-ไช                   ข.  อับ-ปะ-รา-ไช    ค.  อับ-ปรา-ไช                      ง. อะ-ปรา-ไช
12. ขมุกขมัว
    ก.  ขะ-มุก-ขะ-มัว     ข.  ขะ-หมุก-ขะ-มัว                   ค.  ขะ-มุก-ขะหมัว            ง. ขะ-หมุก-ขะ-หมัว
13. เกษตรกร
    ก.  กระ-เสด-ตะ-กอน                                           ข. กะ-เสด-ตระ-กอน
    ค.  กระ-เสด-กอน                                 ง.  กะ-เสด-กอน
14. “16.30 น.”  อ่านอย่างไรจึงจะถูก
    ก.  สิบนกนาฬิกาสามสิบนาที                              ข.  สิบหกจุดสามศูนย์นอ
    ค.  สิบหกนาฬิกาครึ่ง                                           ง.  สิบหกครึ่ง
15. บ้านเลขที่ “319/425”  อ่านอย่างไรจึงจะถูก
    ก. สามหนึ่งเก้าทับสี่ร้อยยี่สิบห้า                           ข.  สามร้อยสิบเก้าทับสี่สองห้า
    ค.  สามหนึ่งเก้าพันสี่สองห้า                 ง.  สามร้อยสิบเก้าทับสี่ร้อยยี่สิบเก้า 
16. ทีละน้อยๆ อ่านอย่างไรจึงจะถูก
    ก.  ทีละน้อนน้อย   ข. ทีละน้อย ทีละน้อย            ค.  ทีละน้อย  ทีละน้อย            ง.  ทีละน้อย
17. ปตท.  อ่านคำเต็มที่ถูกต้องว่าอย่างไร
    ก.   หน่วยป้องกันและต่อสู้ของทหาร                   ข.  การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
    ค.  กรรมการปราบปรามตำรวจทุจริต                   ง.  ประสานงานตำรวจทางหลวง
18. รมว.  อ่านคำเต็มที่ถูกต้องว่าอย่างไร
    ก.  รา-มา-วะ-ตาน                                               ข.  ราม-วะ-ชิ-รา-วุด
    ค.  รัด-ถ-มน-ตรี-ว่า-กาน                                                    ง.  ราด-ชะ-มะ-กุด-วิด-ทะ-ยา-ไล
19. พรรณนา
    ก.  พัน-ระ-นะ-นา  ข.   พัน-ระ-นา                      ค. พัน-นะ-นา                        ง.  พัน-นา
20. เจตคติ
    ก.  เจ-คะ-ติ                            ข.  เจด-คะ-ติ                          ค.  เจด-ตะ-คะ-ติ                    ง.  เจ-ตะ-คะ-ติ

3.  ความหมายของคำหรือกลุ่มคำ

21. ข้อใดมีความหมายต่างจากข้ออื่น
    ก.  ยกยอ                ข.  ชมเชย                              ค.  ยกย่อง                              ง.  สรรเสริญ
22. คำราชาศัพท์ “บัปผาสะ” หมายถึงข้อใด
    ก.  ไต                                    ข.  ตับ                                   ค.  ปอด                                 ง.  ม้าม
23. “เจตคติ”  หมายความว่าอย่างไร
    ก.  สิ่งที่คิด                             ข.  ความจงใจ                        ค.  ความตั้งใจ                        ง.  ความรู้สึก
24. สัตว์ในข้อใดได้ชื่อว่าเป็น “อสรพิษ”
    ก.  งู                                      ข.  เสือ                                  ค.  ช้าง                                  ง.  สุนัข
25. “ระเบียน”  มีความหมายว่าอย่างไร
    ก.  เรียงราย                           ข.  ทะเบียน                           ค.  รายการ                            ง.  ลำดับ
    อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ  26 - 27
      “ผู้ว่า  เบรกแตก  จากเจ้าหน้าที่ป่าไม้”
26. “จวก”  ในที่นี้หมายความว่าอย่างไร
    ก.  ตำหนิ ข.  ว่ากล่าว                           ค.  ตักเตือน                           ง.  ต่อว่าอย่างรุนแรง
27. เบรกแตก   ในที่นี้หมายความว่าอย่างไร
    ก.  โกรธ                ข.  เผ็ดร้อน                           ค.  ยั้งไม่อยู่                           ง.  วางอำนาจ
    อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ  28 - 30
             เวลานี้เธออายุ  36 ปีแล้วแต่มาดยังเปรี้ยวและโฉบไปเฉี่ยวมา   เพราะเรื่องงานอยู่มิได้หยุด
28. “โฉบไปเฉี่ยวมา”  หมายถึงข้อใด
    ก.  เร่ร่อน               ข.  วนเวียน                   ค.  ไปมารวดเร็ว                           ง.  ขับรถด้วยความเร็ว
29. เปรี้ยว  ในที่นี้หมายความว่าอย่างไร
    ก.  คล่องแคล่ว                       ข.  ว่องไว  เจ้าชู้                     ค.  ทำตามใจตัวเอง ง.  มีเพื่อนมาก
30. มาด  ในที่หมายความว่าอย่างไร
    ก.  นิสัย                                 ข.  ท่าทาง                              ค.  วางท่า                              ง.  การแต่งกาย

4.  การเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ
ให้อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วเลือกคำตอบในข้อ  31-40  เติมในช่องว่าง
                    แม่แอ๋นเป็นชื่อต้นน้ำ....31…..แม่ปิง    เรียกว่าต้นแม่น้ำแอ่นไหล.....32….มาจากภูเขา   ตอนแรกๆมีชาวบ้านอยู่กันเพียงสองสาม....33....และพื้นที่เดิมเป็นป่า.....34.....ดิบเต็มไปด้วยไข้ป่าและสัตว์ป่า.....35…..
                    จึง....36…..กันว่า   พื้นที่นี้มีเสือมีหมี.....37….ผีป่ามาก  ชาวบ้านไม่กล้าอาศัย   พื้นที่มีอาถรรพณ์......38.....จึงต้อง….39……หนีไป   หรือเรียกตามภาษาชาวบ้านว่าแอ่นไป   เลยกลายเป็น ...40… ของหมู่บ้านอีกเรื่องหนึ่ง

31. ก.  แห่ง                                 ข. ของ                                   ค.  ตาม                                 ง.  จาก
32. ก.  ลง                                    ข.  ตก                                   ค.  ริน                                   ง.  เรื่อย
33. ก. คน                                    ข.  หมู่บ้าน                            ค.  ครอบครัว                         ง.  ครัวเรือน
34. ก. หญ้า                                 ข.  ทึบ                                   ค.  ดง                                    ง.  รก
35. ก.  ชุกชุม                               ข.  ชุมนุม                               ค.  ชุก                                    ง.  ชุม
36. ก. ว่า                                     ข.  พูด                                   ค.  ลือ                                   ง.  กล่าว
37. ก.  ตลอดจน                          ข.  และ                                 ค.  กับ                                   ง.  ทั้ง
38. ก. มาก                                  ข.  แข็ง                                  ค.  แรง                                  ง.  จัด
39. ก.  อพยพ                              ข.  หลบ                                 ค. หลีก                                  ง.  รีบ
40. ก.  ประวัติ                             ข.  ตำนาน                             ค.  นิทาน                              ง.  เรื่อง

2.  การเขียน

1.  การเรียงข้อความ
จงเรียงลำดับข้อความให้ถูกต้อง

41. 1.  ภาษาไทยที่มีเสียงดนตรีอยู่ด้วยกันเป็นอันมากนี้                          
    2.  คนไทยเท่านั้นที่จะอ่าน  พูดได้ชัดกว่าคนชาติอื่น                         
    3.  เสียงดนตรีที่มีในภาษาไทยนี้
    4.  ชาวต่างประเทศสนใจเป็นอันมาก
    ก.  3  2  1  4                        ข.  4 3  1  2                         ค.  1  2  3  4                        ง.  3  4  1  2
42. 1.  ซึ่งจัดมาสม่ำเสมอนั้นด้วย               2.  งานนี้จัดเป็นงานในระดับชาติที่คุกคักหนักแน่นติดต่อกันมานับกว่า 10 ปี  3.  นี้ยังไม่นับมหกรรมระดับมัธยมฯ และประถมฯ   4.  มหกรรมดนตรีไทย  อุดมศึกษาก็จะเริ่มต้นปีหน้า
    ก.  4  3  2  1                        ข.  4  1  2  3                        ค.  4  2  1  3                        ง.  4   2   3  1
43. 1.  นี่มิใช่โจมตีของดีของงาม 2.  แง่คึกคักมีชีวิตชีวาน่าชื่นชมจะไม่พูดถึง
    3.  แต่แง่อาการเพียบหนักของดนตรีไทยต้องขอพูดถึงสักหน่อย
    4.  หากเป็นเรื่องต้องช่วยกันดูแลค้นหาเบาะแส
    ก.  2  3  1  4                        ข.  3  2  1  4                        ค.  4  2  1  3                        ง.  4  1  2  3
44. 1.  จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ในปี  1973
    2.  ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นด้วยอัตราที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
    3.  ในปี  1973  หลังจากการปฏิวัติในอิหร่าน
    4.  กรณีการปิดกั้นเรือขนส่งน้ำมันของอาหรับ
    ก.  3  2  1  4                        ข.  1  4  3  2                        ค.  4  2  3  1                        ง.  3  4  2  1
45. 1.  ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย                  2.  เป็นผู้ที่น่าสงสารเพราะยากจน
    3.  อยู่ในถิ่นกันดารจริงๆ                                                    4.  ชาวบ้านเหล่านี้
    ก.  4   1   2   3                     ข.  4  3  2   1                       ค.  4  2  3  1                        ง.  4  3  1  2
46. 1.  ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์               2.  มีการค้นพบพลังงานธรรมชาติเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ
    3.  ในปัจจุบันนี้                                                   4.  การศึกษาวิจัยได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
    ก.  3  1  4  2                        ข.  1  3   2  4                       ค.  4  2  3  1                        ง.  2  3  1  4
47. 1.  ในตอนเย็นแดดร่ม  ลมตก  นั่งกันเป็นแฟชั่น  2.  สำหรับเจ้าจอมหม่อมห้ามทั้งหลาย
    3.  ในสมัยนั้นมักจะไปเที่ยวไม่ไกลนัก                4.  ท่านก็ชอบนั่งรถลากนี้เที่ยว
    ก.  4  2  3  1                        ข.  2  4  1  3                        ค.  1  2  4  3                        ง.  3  2  4  1
48. 1.  นายลีก็อยู่ในวิสัยที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน  
    2.  มีมนุษย์สัมพันธ์ในหมู่บ้านดีพอสมควร
    3.  ผู้ใหญ่ลีเป็นชาวบ้านที่มีฐานะค่อนข้างดี      
    4.  แม้จะไม่ได้เรียนภาษาไทยใหม่มากมายไปกว่าลูกบ้านก็ตาม
    ก.  3   2   4  1                      ข.  1  4  2  3                        ค.  4  1 3  2                         ง.  3 4  2  1
49. 1.  คนลากรถต้องแต่งกายใช้เสื้อผ้าสีเดียวกัน       2.  รวมทั้งหมวกกุยเล้ย  รองเท้า
    3.  อัตราค่ารถต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ประกาศไว้         
    4.  ถ้าหากมีคดีถึงโรงถึงศาลต้องขึ้นศาลโปลิสสภาด้วย
    ก.  3  4  1  2                        ข.  3   2  1  4                       ค.  4  3  1  2                        ง.  1  2  3  4
50. 1.  เป็นภาษาที่เข้าใจกันได้ง่ายๆ  ในการใช้ต่อรองเสนอราคา                            2.  ภาษาที่ใช้กันทั่วไปจึงเป็นภาษาแต้จิ๋ว   3.  ไม่สันทัดภาษาไทย          4.  เนื่องจากคนลากรถส่วนมากแล้วจะเป็นคนแต้จิ๋ว
    
    

2.  การแต่งประโยค

51. “ในพิธีสวนสนามเหล่าทหารกล่าวคำ......ว่าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์”
    ก.  สาบาน                             ข.  สัญญา                              ค.  รับรอง                             ง.  ปฏิญาณ
52. “โรคไข้หวัดใหญ่......ไปทั้งหมู่บ้าน”
    ก. ลุกลาม                              ข.  ลามปาม                           ค.  แพร่หลาย                        ง.  ระบาด
53. คำขวัญที่ดีต้อง.....ผู้ฟังหรือผู้อ่าน
    ก.  สนใจ                ข.  ติดใจ                 ค.  ประทับใจ                         ง.  สะดุดใจ
54. “เขามักชอบพูดเสมอว่า  กลัวอะไร.....ความจน”
    ก.  กับ                                   ข. ต่อ                                    ค.  ใน                                   ง.  ที่
55. “เขาทำท่า.....จนเราเชื่อว่าเขาพูดจริง”
    ก.  แข็งขัน                             ข.  ขึงขัง                 ค.  คึกตัก                ง.  เข้มแข็ง
56. “ผู้ดีย่อมจะไม่ดูถูก.......คนจน  แต่ควรจะให้ความช่วยเหลือเขาเหล่านั้น”
    ก.  เยาะเย้ย                            ข.  เย้ยหยัน                           ค.  เหยียดหยาม                     ง.  เหยียบย่ำ
57. “ขับรถบนถนนที่มีน้ำทำให้น้ำ.....ไปถูกคนอื่น”
    ก.  กระจาย                            ข.  กระฉอก                           ค.  กระเด็น                            ง.  กระเซ็น

อ่านประโยคต่อไปนี้   แล้วตอบคำถามข้อ  50 - 60
      1.  เขาคนเดียว         2.  ใครที่เข้ามากับเขา           3.  ใครคนหนึ่งล้มลง             4.  เขาไม่ชอบอาหารรสจัด

58. ประโยคใดเป็นประโยคบอกเล่า
    ก.   1                                     ข.  2                                      ค.  3                                      ง.  4
59. ประโยคใดเป็นประโยคคำถาม
    ก.   1                                     ข.  2                                      ค.  3                                      ง.  4       
60. ประโยคใดเป็นประโยคปฏิเสธ
    ก.   1                                     ข.  2                                      ค.  3                                      ง.  4       

3.  ความเข้าใจภาษา
อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ  61-70
              “ สำหรับการเลิกทาส  กรมหลวงพิชิตฯ  ทรงเป็นผู้บัญชาการใหญ่  ต้องต่อสู้กับพวกนายทุนอย่างมากมายเพราะพวกนายทุนไม่รู้ว่าจะทำมาหากินอะไรเมื่อไม่มีทาส   และพวกทาสเองก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตต่อไปได้อย่างไรถ้าไม่มีนายเงินค้ำจุนชีวิต  กรมหลวงพิชิตฯ  สมัยนั้นยังเป็นกรรมหมื่นได้ทรงฝ่าฟันอุปสรรครอบด้าน  ทรงเคร่งครัดเอาจริงไม่ว่าจะเป็นเสียงร่ำร้องหรือผ่อนผันไม่ว่านายเงินจะเคียดแค้นประการใดก็ไม่ทรงยอมฟังเสียงทั้งสิ้น  ในขณะเดียวกันก็พยายามโฆษณาให้พวกทาสรู้จักความเป็นมนุษย์เข้าใจคำว่าเสรีภาพ  ซึ่งเป็นสิ่งที่พึงหวนแหนของมนุษย์ชาติทั่วไป  จนกระทั่งพวกทาสค่อยๆสำนึกในเรื่องนี้  ความเข้มแข็งและเด็ดขาดในการเลิกทาสครั้งนี้  กรมหมื่นพิชิตฯ  ทรงได้รับคำชมเชยจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเสนาบดีทุกคนเป็นพิเศษ”

61. ข้อความที่ว่า  “พวกนายทุนไม่รู้ว่าจะทำมาหากินอะไร  เมื่อไม่มีทาส”  มีความหมายว่าอย่างไร
    ก.  พวกนายทุนมีแต่เงินไม่มีแรงงาน                   ข.  พวกทาสรู้วิธีทำมาหากิน
    ค.  นายทุนมีจำนวนน้อยกว่าทาส                                        ง.  นายทุนเป็นพวกอ่อนแอ
62. “ทรงฝ่าฟันอุปสรรคทุกด้าน”  อุปสรรคดังกล่าวนี้หมายถึงข้อใด
    ก.  การหลบหนีของพวกทาส                   ข.  ทาสที่ก่อการจลาจลไม่ยอมเลิกทาส
    ค.  การต่อต้านการเลิกทาสของพวกนายทุน   ง.  การซื้อขายทาสในตลาดค้าทาสของพวกนายทุน
63. เหตุใดจึงต้องโฆษณาให้พวกทาสรู้จักความเป็นมนุษย์
    ก.  ทาสไม่รู้ว่าตนเองเป็นมนุษย์                                          ข.  ทาสส่วนใหญ่เป็นคนโง่
    ค.  ทาสไม่รู้ว่ามนุษย์คืออะไร                              ง.  ทาสไม่อยากเป็นมนุษย์
64. การที่บุคคลสามารถทำสิ่งใดๆ ได้ตามขอบเขตของกฎหมาย  หมายความว่าอย่างไร
    ก.  มีสมดุลยภาพ                   ข. มีภราดรภาพ                     ค.  มีอิสรภาพ                        ง.  มีเสรีภาพ
65. การที่คนตกเป็นทาสของนายทุนเพราะเหตุใด
    ก.  โง่                                    ข.  ยากจน                             ค.  ขายตัว                              ง. สมัครใจ
66. “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”  ในที่นี้หมายถึงข้อใด
    ก.  รัชกาลที่  4                      ข.  รัชกาลที่  5                      ค.  รัชกาลที่  6                      ง.  รัชกาลที่  9
67. “เสนาบดี”  ปัจจุบันนี้หมายถึงบุคคลในข้อใด
    ก.  รัฐมนตรีว่าการ ข.  รัฐมนตรีช่วยการ              ค.  นายกรัฐมนตรี  ง. ประธานรัฐสภา
68. จากบทความนี้แสดงว่า  กรมหลวงพิชิตฯ  มีนิสัยอย่างไร
    ก.  ดุตัน                                 ข.  อ่อนโยน                          ค.  ชอบเอาชนะ                     ง.  เข้มแข็ง
69. คำ “ต่อสู้”  ในที่นี้หมายถึงข้อใด
    ก.  รบกัน    ข.  ฆ่าฟันกัน                      ค.  เป็นศัตรูกัน                     ง.  หาวิธีเอาชนะกัน
70. เหตุใดจึงต้องเลิกทาส
    ก.  เพราะนายทุเอาเปรียบทาสมากเกินไป                            ข.  เพราะการมีทาสทำให้บ้านเมืองไม่เจริญ
    ค.  เพราะทาสต้องการอิสรภาพ                                           ง.  เพราะเกิดการจลาจล

จงอ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ  71-80
                      “ อนงค์เป็นสาวตาดำขำคม  ช่างเล่นช่างหัว  มีอารมณ์ขันถูกใจสมเกียรติอะไรๆก็ดีหมด  มีเรื่องที่สมเกียรติตะขิดตะขวงอย่างเดียว  คือ  อนงค์ดูจะเป็นคนมีเหงื่อมาก   เหงื่อไหลไคลย้อนอยู่เสมอ  คงเป็นเพราะทำอะไรรวดเร็ว  จนดูกระหืดกระหอบเป็นนิจ  เสื้อผ้า  เผ้าผมก็เลยพลอยเปื้อนเหงื่อไปหมด  พอสมเกียรติขยับจะเข้าใกล้ชิดทีไร  มองเห็นคอเสื้อของอนงค์เป็นคราบดำ  ทำให้ต้องถอยห่างทำใจไม่ได้ว่าของมันชักออก  ผมเปียกเหงื่อดูเหนียวหนับก็ไม่เป็นไรสระเสียก็สะอาด  สมเกียรติวิเคราะห์ตัวเองแล้วยอมรับว่ารักอนงค์จริง  แต่จะรักได้สนิทมากขึ้น  ถ้าอนงค์จะปรับปรุงส่วนที่สมเกียรติไม่ชอบ”

71. การที่เป็นคนเหงื่อมากทำให้เป็นอย่างไร
    ก.  หงุดหงิด           ข.  กระสับกระส่าน               ค.  มีกลิ่นตัวแรง    ง.  ใช้เสื้อผ้าเปลือง
72. เหตุใดอนงค์จึงเป็นคนที่มีเหงื่อมาก
    ก.  ทำอะไรๆด้วยความเร็ว                                   ข.  อากาศอบอ้าว
    ค.  ร่างกายผิดปกติ                                               ง.  ขี้ร้อน
73. “ตะชิดตะขวง”  หมายความว่าอย่างไร
    ก.  ไม่ถูกใจ                           ข.  ไม่พอใจ                           ค.  ลำบากใจ                          ง.  กระดากใจ
74. “ช่างเล่นช่างหัว”  เป็นลักษณะของคนประเภทใด
    ก.  ไม่ถือตัว                           ข.  เหลาะแหละ                     ค.  มีอารมณ์ขัน                     ง.  ไม่เอาจริงเอาจัง
75. “สาวตาดำขำคม”  เป็นหญิงที่น่าจะมีลักษณะตามข้อใด
    ก.  ผิวดำ                 ข.  ผิวคล้ำ                             ค.  ผิวขาว                              ง.  ผิวเหลือง
76. อนงค์ควรทำอย่างไรจึงจะไม่มีกลิ่นเหงื่อ
    ก.  รักษาความสะอาดของร่างกาย                                       ข.  ทำอะไรๆให้ช้าลงกว่าเดิม
    ค.  ใช้ยาระงับกลิ่นตัว                                                         ง.  ถูกทุกข้อ
77. สมเกียรติควรบอกให้อนงค์ปรับปรุงตัวเองด้วยเหตุผลใด
    ก.  เพราะเกลียดเหงื่อ                                                          ข.  เพราะรักอนงค์จริงใจ
    ค.  เพราะจะได้เข้าใกล้ได้                                                    ง.  เพราะจะได้ไม่มีคนอื่นรังเกียจ
78. ส่วนที่สมเกียรติไม่ชอบในตัวอนงค์คืออะไร
    ก.  มีเหงื่อมาก                                                                    ข.  ผมเหนียวหนับ
    ค.  คอเสื้อมีคราบดำ                                                            ง.  เป็นคนช่างเล่นช่างหัว
79. วิเคราะห์  หมายถึงข้อใด
    ก.  ถาม                                 ข.  ศึกษา                ค.  พิจารณา                           ง.  ใคร่ครวญ
80. เหตุใดสมเกียรติ “ทำไม่ได้”
    ก.  เพราะเป็นคนรักความสะอาด                                         ข.  เพราะทนกลิ่นเหงื่อไม่ได้
    ค.  เพราะยังไม่รักอนงค์จริง                                 ง.  ถูกทุกข้อ

คำสั่ง  ให้เขียนข้อความสั้นๆ อธิบายความหมายของคำต่อไปนี้

81. ทรัพยากร               82.  มลภาวะ               83. วินิจฉัย                     84.  เทคโนโลยี        

85.  พระไตรปิฎก         86.  รณรงค์               87.  อุบัติภัย                      88.  อธิปไตย
89.  ปรมาจารย์             90.  กรณียกิจ

คำสั่ง  ให้ย่อความจากเรื่องต่อไปนี้
                แหล่งธุรกิจภายในประเทศเฟื่อง  สวนทางภาวะเศรษฐกิจเสื่อมถอย  เผยคนไทยล้มเหลวเรื่องธุรกิจต้องหาทางพักผ่อนคลายเครียดมากขึ้น
                แหล่งข่าวจากวงการธุรกิจท่องเที่ยวเปิดเผย  “มติชน”  ว่านักท่องเที่ยวไทยต่างให้ความสนใจการเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น  โดยมีการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวในประเทศที่บริษัทนำเที่ยวต่างๆมากมาย  ทำให้คาดว่าระหว่างเดือนพฤศจิกายน  ถึงมกราคมปีหน้า  จะมีนักท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 20%  โดยเฉพาะมีการจองตั๋วไปเที่ยวภาคเหนือมากเป็นพิเศษในช่วงเดือนธันวาคมนี้
                 รายงานข่าวกล่าวว่าสาเหตุที่คนไทยนิยมเที่ยวในประเทศมากขึ้นนั้นเป็นเพราะว่าสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศหลายแห่งมีการปรับปรุงใหม่  และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็เอาจังกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ  ทำให้คนตื่นตัวมาก  และสาเหตุสุดท้ายมาจากการที่คนไทยล้มเหลวเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจจนทำให้เกิดความเครียด  ต้องหาทางพักผ่อนสมอง

81.  ทรัพยากร  หมายถึง    สิ่งทั้งปวงอันเป็นทรัพย์  อาจจะเป็นทรัพยากรที่เกิดตามธรรมชาติ  หรือประดิษฐ์คิดขึ้นก็ได้

82.  มลภาวะ    หมายถึง    สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษซึ่งเกิดจากความสกปรก  เช่น  อากาศ  น้ำเป็นพิษ

83.  วินิจฉัย      หมายถึง    การพิจารณา  การตัดสิน  หรือไตร่ตรอง  ใคร่ครวญเพื่อเกิดการตัดสินใจ
84.  เทคโนโลยี  หมายถึง  วิทยาการที่เกี่ยวกับศิลปะในการนำเอาวิทยาศาสตร์ประยุกต์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติ  และอุตสาหกรรม

85.  พระไตรปิฎก   หมายถึง  พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า  มี  3  ปิฎก  คือ  พระวินัย  พระสูตร  และพระอภิธรรม

86.   รณรงค์   หมายถึง   การรบหรือสนามรบ,ต่อสู้,โฆษณาชักชวนอย่างต่อเนื่อง  โดยมีเจตนาให้บรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ

87.  อุบัติเหตุ    หมายถึง  ภัยหรือภัยอันตรายที่เกิดขึ้นหรือบังคับเกิดขึ้น  เช่น  วาตภัย  อุทกภัย  เป็นตัวอย่าง

88.  อธิปไตย   หมายถึง  อำนาจสูงสุดของรัฐที่จะใช้บังคับบัญชาภายในอาณาเขตหรือเขตแดนของตน

89.  ปรมาจารย์   หมายถึง  อาจารย์หรือครูผู้เป็นเอก  หรือยอดเยี่ยมในทางวิชาการ  วิชาใดวิชาหนึ่ง

90.  กรณียกิจ  หมายถึง  กิจหรือหน้าที่อันควร  หรือพึงกระทำ

เฉลยการย่อความ

               แหล่งข่าวเปิดเผยว่า  ในเดือนพฤศจิกายน  ถึงมกราคมปีหน้าจะมีนักท่องเที่ยวพากันเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อนถึง  20%  การที่นักท่องเที่ยวไทยสนใจเที่ยวในประเทศมากขึ้นนั้น  เป็นเพราะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเอาจริงเอาจังในการส่งเสริม  และทั้งได้มีการปรับปรุงสถานที่น่าท่องเที่ยวในประเทศดีขึ้น  นอกจากนั้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจเสื่อมถอย  เป็นเหตุให้ต้องการหาทางพักผ่อนสมองคลายความเครียดจากการล้มเหลวทางเศรษฐกิจ 

 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ

 Line ID : Panisara_test